วันอาทิตย์ที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เตรียมตัวไปเที่ยวเกาหลี แบบไม่ง้อทัวร์ ต้องรู้อะไรบ้าง


เช็คสภาพอากาศก่อนเดินทาง
ประเทศเกาหลีจะมี 4 ฤดูกาลด้วยกัน โดย
ฤดูร้อน (เดือนมิถุนายน-สิงหาคม) เป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวน้อยสุด เพราะช่วงเดือนมิถุนายนไปจนถึงกลางหรือปลายเดือนกรกฎาคมมักมีมรสุมพัดเข้ามาที่เกาหลีเป็นประจำ (ควรพกร่มมาด้วย) แต่ถ้าเป็นเดือนสิงหาคมอากาศจะค่อนข้างร้อนจัด (ควรพกเสื้อผ้าตัวบางๆ กับอุปกรณ์กันแดดมา)

ส่วนฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายน-พฤศจิกายน) จะเป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีซึ่งมีความโรแมนติกมาก เนื่องจากต้นไม้น้อยใหญ่ทั่วทั้งเมืองและบนหุบเขาอีกหลายแห่ง กำลังเปลี่ยนสีผลัดใบอวดโฉมครั้งสุดท้ายก่อนร่วงหล่นจากลำต้น แถมอากาศยังดีด้วย (อยู่ที่ 3-26 องศาเซลเซียส) เรื่องเสื้อผ้าก็ไม่ถึงกับต้องหอบเฟอร์ตัวโคร่ง แค่เสื้อแขนยาว กางเกงยีนส์ ถุงมือ ผ้าพันคอธรรมดา อาจเผื่อแจ็กเก็ตไปอีกตัวก็พอแล้ว

สำหรับฤดูหนาว (เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์) อากาศจะหนาวมาก โดยอุณหภูมิจะอยู่ที่ -4 ถึง 3 องศาเซลเซียส ถือเป็นฤดูสำหรับผู้ที่ชื่นชอบลมหนาวและดาวเดือน จนเรียกความสนใจจากชาวเกาหลีและผู้ที่นิยมชมชอบการเล่นสกีเป็นชีวิตจิตใจไม่น้อยเลย งานนี้ใครอยากเล่นสกีบนหิมะของแท้ ให้เตรียมครีมทาผิว ลิปมัน แจ็กเก็ตหนาๆ และอุปกรณ์กันหนาวมาให้ดีนะคะ

สุดท้ายฤดูใบไม้ผลิ (เดือนมีนาคม-พฤษภาคม) จะสดใสไปกับต้นไม้ที่กำลังผลิบานสะพรั่งเต็มต้นไปหมด อากาศก็ไม่ร้อนไม่หนาวจนเกินไป (ประมาณ 0-23 องศาเซลเซียส) เพียงแต่ในช่วงเดือนมีนาคม-เมษายน อากาศจะยังหนาวอยู่ ก็ควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวมาให้พร้อมด้วย

สายการบินที่น่าสนใจ
การเดินทางจากไทยไปเกาหลีนั้น มีทั้งบินตรงและบินอ้อม โดยสายการบินตรงที่น่าสนใจก็มีสิงคโปร์แอร์ไลน์ส สายการบินคุณภาพทั้งบริการและมาตรฐานระดับเยี่ยม แต่เรื่องราคาต้องบอกว่าสูงสุดเลยทีเดียว (www.singaporeair.com), เจ้าจำปีหรือการบินไทยที่ราคาถูกกว่าสิงคโปร์แอร์ไลน์สไม่มาก หากสนใจอุดหนุนคนไทยด้วยกันก็ใช้บริการได้เลย (www.thaiairways.com) และสุดท้ายคือสายการบินเกาหลีแอร์ ที่มีเที่ยวบินราคาถูกที่สุด (นับตั้งแต่โอเรียลทอลไทยหยุดบินไป) ใครสนใจซึมซับวัฒนธรรม อาหาร การบริการแบบเกาหลีตั้งแต่อยู่บนเครื่องก็เลือกสายการบินนี้ได้ค่ะ (www.koreanair.com)

ส่วนผู้ที่ไม่เร่งรีบอยากเดินทางแบบชิลล์ๆ ก็อาจเลือกบินอ้อมได้ โดยมีสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ส (www.malaysiaairlines.com), คาเธ่ย์แปซิฟิก (www.cathaypacific.com) หรือแจลแอร์เวย์สเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวจะไปแวะพักเปลี่ยนเครื่องตามประเทศของสายการบินนั้นๆ ก่อนเดินทางต่อไปยังเกาหลีอีกที

ข้อมูลที่ควรรู้

วีซ่าเนื่องจากประเทศไทยเป็นภาคีกับทางเกาหลีครั้งสงครามเกาหลีเมื่อในอดีต จึงทำให้คนที่เดินทางไปเกาหลีและอยู่อาศัยไม่เกิน 90 วัน ไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าค่ะ แต่ถ้าใครต้องการอยู่นานกว่านั้นก็สามารถไปยื่นเรื่องขออยู่ต่อได้ที่ที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองตามเมืองใหญ่ๆ เช่น กรุงโซล เมืองพูซาน สนามบินอินชอน เป็นต้น หากเรื่องที่ขอไปผ่านการพิจารณา เจ้าหน้าที่ก็จะออกบัตรประจำตัวคนเข้าเมืองให้เรา

เงินทองต้องรู้
เกาหลีใช้สกุลเงินวอน (Won) โดยปัจจุบัน 1,000 วอน ตกอยู่ที่ 32-35 บาท ส่วนแบงก์ของเขาก็จะมีแบงก์ 10,000 วอน 5,000 วอน 1,000 วอน และหน่วยย่อยลงมาคือเหรียญ ตั้งแต่ 500, 100, 50, 10, 5 และ 1 วอน (เหรียญ 1 วอน กับ 5 วอน ไม่ค่อยมีใครใช้แล้ว) ตามลำดับ ทั้งนี้จะใช้วิธีการแลกเงินจากประเทศไทยหรือเอาบัตรเอทีเอ็มไปกดเอาที่โน่นบ้างก็ตามสะดวก

บัตร T Moneyหรือที่เรียกกันว่า Transportation Card เป็นบัตรเงินสดที่ใช้เดินทางได้ทั้งรถไฟใต้ดิน, แท็กซี่, รถบัส, ร้านสะดวกซื้อ, ตู้ขายอัตโนมัติ ฯลฯ ซึ่งบัตรชนิดนี้สามารถหาซื้อได้จากเคาน์เตอร์จำหน่ายตั๋วในสถานีรถไฟใต้ดิน เมื่อใช้จนเงินหมดก็สามารถเติมเงินได้จากตู้เติมเงินอัตโนมัติภายในบริเวณสถานีรถไฟใต้ดิน, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ร้านค้าทั่วไปที่มีสัญลักษณ์บัตร T Money ฯลฯ


โทรศัพท์
เนื่องจากโทรศัพท์มือถือของเกาหลีใช้คนละระบบกับบ้านเรา จึงทำให้การนำซิมไปใช้เป็นเรื่องยาก ดังนั้น วิธีการโทรศัพท์กลับเมืองไทยที่สะดวกที่สุดคือใช้บัตรโทรศัพท์ค่ะ โดยบัตรโทรศัพท์ที่ว่าสามารถหาซื้อได้จากเมืองไทย เช่น Cat Thai Card (นาทีละ 22 บาท) และบัตร iTalk (นาทีละ 1 บาท) เป็นต้น หรือจะซื้อบัตรโทรศัพท์จากที่เกาหลีก็ได้ เขาขายเพียงใบละ 10,000-12,000 วอนเท่านั้น (นาทีละ 10 บาท)

ไฟฟ้า
ระบบไฟฟ้าของเกาหลีจะใช้กำลังส่งไฟฟ้าทั้ง 110 โวลต์และ 220 โวลต์ เหมือนกับบ้านเรา แต่บริเวณรูเสียบปลั๊กของเขาจะเป็นรูกลมๆ ฉะนั้นถ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าของคุณไม่ใช่หัวกลม ก็ควรเตรียมตัวแปลงปลั๊กไฟไปด้วย

เวลาทำการ

หน่วยงานภาครัฐในเกาหลี (รวมถึงที่ทำการไปรษณีย์ด้วย) จะเปิดบริการในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-18.00 น. แต่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ จะปิดบริการเร็วกว่าปกติ 1 ชั่วโมง เนื่องจากมีอากาศหนาวเย็น ส่วนผู้ที่ต้องการแลกเงินก็ต้องจำไว้ให้ดีนะคะว่า ธนาคารจะเปิดวันจันทร์-ศุกร์เวลา 09.30-16.00 น. สำหรับห้างสรรพสินค้าและร้านอาหารส่วนใหญ่จะเริ่มเปิดตอน 10.00 น.ไปจนถึงเวลาประมาณหนึ่งทุ่มถึงสี่ทุ่ม (แล้วแต่ที่)


แหล่งที่มา : http://www.itripy.com/articles.aspx?id=135&f=200810&t=1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น